ฮวงจุ้ยแบบบ้านตั้งอย่างไรให้ถูกหลัก


การสร้างบ้าน หรือการเลือกซื้อบ้านสักหลัง สิ่งสำคัญที่ควรจะนึกถึงก็คงจะเป็นเรื่องของ “รูปทรงบ้าน” เพราะรูปทรงบ้านถือเป็นจุดขายอย่างหนึ่ง โครงการต่างๆ ก็พยายามเน้นในเรื่องของรูปทรงบ้านที่สวยหรูหราดูทันสมัย เพื่อจูงใจลูกค้า
 

ตามหลักฮวงจุ้ย ก็มีการพูดถึงเรื่องของรูปทรงบ้านเอาไว้เหมือนกัน ผมเลยนำมาเล่าสู่กันฟัง เผื่อใครกำลังมองหาบ้านจะได้มีข้อสังเกตในการเลือกบ้านที่ถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ย

ตำราฮวงจุ้ยบอกเอาไว้ชัดเจนในเรื่องของรูปทรงบ้าน โดยให้พิจารณาปัจจัย ดังต่อไปนี้


1. บ้านทรงสี่เหลี่ยม 


รูปทรงบ้านที่เป็นสี่เหลี่ยมถือว่าเป็นรูปทรงที่ถูกต้องที่สุดในทางฮวงจุ้ย เพราะบ้านจะไม่มีส่วนเว้าส่วนเกิน แต่ในปัจจุบันการจะหาบ้านรูปทรงสี่เหลี่ยมเต็มๆ คงจะหายาก สถาปนิกเองก็คงไม่แฮปปี้นักกับการออกแบบบ้านรูปทรงเหมือนกล่องแบบนี้ เพราะดูไม่มีดีไซน์ ไม่มีกึ๋นว่างั้นเถอะ นอกจากนี้ยังมองดูทื่อๆขาดความสวยงาม ซึ่งผมก็เห็นด้วยในเรื่องนี้
หลายคนยังเข้าใจผิดในเรื่องของบ้านเว้าแหว่ง บางคนกลัวบ้านจะผิดฮวงจุ้ย ให้สถาปนิกออกแบบบ้านทรงสี่เหลี่ยมเต็ม เหมือนกันตึกแถวหรืออาคารพาณิชย์เลย ความจริงแล้วไม่ต้องไปซีเรียสขนาดนั้น
รูปทรงบ้านอาจจะมีส่วนเว้าหรือส่วนเกินบ้าง ก็คงไม่ผิดกติกาอะไร ถ้าส่วนเว้าส่วนเกินนั้น ไม่มากจนเกินไป เช่น เว้าหรือเกินจากตัวบ้านไม่เกิน 1 ใน 3 ของตัวบ้าน อย่างนี้ไม่น่ามีปัญหา แต่ถ้าเกิน 1 ใน 3 ขึ้นไป จะถือว่า บ้านมีส่วนเว้าเกิดขึ้นแล้ว เพราะฉะนั้นจะต้องพิจารณากันให้ดีนะครับ


 2. บ้านเสือขาว-มังกรเขียว 


บ้านอีกลักษณะหนึ่งที่ถือว่าเป็นลักษณะของรูปทรงที่ถูกหลักฮวงจุ้ย ก็คือ บ้านเสือขาว-มังกรเขียว ลักษณะของรูปทรงบ้าน จะมีการแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือส่วนที่เป็นประธาน จะอยู่ตรงกลาง และส่วนที่เป็นปีกทั้งสองข้าง (ซ้าย-ขวา)

บ้านรูปทรงแบบนี้จะได้องค์ประกอบของประธานและบริวาร ในทางฮวงจุ้ยจะถือว่า เป็นบ้านที่มีกำลัง แต่มีข้อสังเกตอยู่อย่างหนึ่งคือ ส่วนที่เป็นประธานจะต้องสูงกว่าอาคารที่เป็นปีกทั้งสองข้าง และอาคารด้านซ้ายซึ่งเป็นตำแหน่งของมังกรเขียว ห้ามต่ำกว่าอาคารด้านขวา ซึ่งเป็นตำแหน่งเสือขาว ถ้าเท่ากันหรือสูงกว่าไม่เป็นไร

การพิจารณาอาคารว่า อยู่ซ้ายหรือขวา ให้เจ้าของบ้านไปยืนในบ้านแล้วมองออกมาหน้าบ้าน ซ้ายคือมังกรเขียว ขวาคือเสือขาว รูปทรงบ้านแบบนี้ ส่วนใหญ่บ้านจะต้องมีพื้นมากพอสมควร ถ้าพื้นที่น้อยก็ไม่เหมาะที่จะใช้รูปบ้านแบบนี้

 3. บ้าน 5 ธาตุ 


ตามหลักฮวงจุ้ยจะพิจารณารูปทรงบ้านตามลักษณะของทิศทาง บ้านอยู่ทิศใดก็ให้ใช้รูปทรงบ้านตามทิศนั้น ทิศจะให้ความหมายของธาตุและรูปทรง โดยแบ่งออกเป็น 5 ธาตุตามทิศ ดังนี้

 4. บ้านรูปทรงเฉพาะอย่าง 

กรณีบ้านทรงไทย ถือเป็นบ้านที่มีรูปทรงที่แตกต่างจากบ้านทั่วๆไป และเป็นรูปทรงสามเหลี่ยม (ธาตุไฟ) ในทาง ฮวงจุ้ยถือว่า เป็นรูปทรงที่แรง ผู้ที่อยู่บ้านลักษณะนี้ได้ จะต้องมีกำลังธาตุที่แข็งพอ ไม่เช่นนั้นจะอยู่ไม่ได้ คนโบราณจึงมักจะกล่าวเอาไว้ว่า บ้านทรงไทยเหมาะกับคนที่มีบารมีสูง เป็นเจ้าขุนบุญนาย เป็นเจ้าเมือง คนธรรมทั่วไปที่ไม่มีบารมี อยู่แล้วจะไม่เจริญ พูดง่ายๆภาษาชาวบ้านก็จะบอกว่า “บารมีไม่ถึง” นั่นเอง

ลองสังเกตกันดู รูปทรงไทยจะคล้ายกับวัด เพราะมีจั่วทรงสามเหลี่ยมเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว พระที่อยู่ในวัดเป็นผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ รักษาศีล เป็นผู้ที่มีบารมีสูง จึงสามารถอยู่ในอาคารรูปทรงแบบนี้ได้ คนที่จะอยู่บ้านทรงไทย ก็เช่นเดียวกัน จึงต้องมีบารมีสูงถึงจะอยู่ได้


 บ้านทรงโรมัน บ้านลักษณะนี้ค่อนข้างเป็นที่นิยมกันมากพอสมควร โดยจะมีเสาต้นใหญ่เป็นเอกลักษณ์ มองดูแล้วให้ความรู้สึกที่หรูหรา อลังการ ใหญ่โตโอ่อ่า ซึ่งรูปทรงบ้านแบบนี้จะเหมาะกับบ้านที่มีพื้นที่กว้างมากๆ โดยด้านหน้าควรจะมีสนามโล่ง เพื่อเป็นลานรับพลัง (เหม่งตึ้ง) จึงจะถือว่าดี เพราะรูปทรงโรมัน จะมีเสาขนาดใหญ่อยู่หน้าบ้าน ถ้าหน้าบ้านไม่กว้าง เสาก็จะกลายเป็นสิ่งกีดขวางพลังที่จะไหลเข้าบ้านได้
แต่ปัจจุบันการนำรูปทรงโรมันมาใช้กับบ้านหลังเล็กๆ ที่มีพื้นที่น้อยมีให้เห็นกันมาก ในทางฮวงจุ้ยถือว่าเสีย เพราะเสาต้นใหญ่ที่อยู่หน้าบ้าน จะกลายเป็นอุปสรรค ขวางทางชี่ที่จะไหลเข้าบ้าน เพราะพื้นที่บริเวณหน้าบ้านไม่มี หรือมีน้อย นั่นเอง เพราะฉะนั้นการนำรูปทรงโรมันมาใช้ จะต้องคำนึงถึงพื้นที่บ้านเป็นสำคัญ


ปัจจัยทั้ง 4 ข้อ เป็นเพียงข้อสังเกตคร่าวๆเท่านั้น ความจริงจะมีรายละเอียดมากกว่านี้ แต่ค่อนข้างจะซับซ้อนเกินไป เอาแค่นี้ก็น่าจะพอนะครับ อย่างน้อยถ้าเลือกได้ตามนี้ ก็ถือว่าเลือกรูปทรงบ้านได้ถูกหลักฮวงจุ้ยแล้ว?


โดย อ.มาโนช ประภาษานนท์ 

 ขอขอบคุณบทความดีๆเกี่ยวกับ ฮวงจุ้ยบ้าน จาก :Homegang